Image Hosting by PictureTrail.com

30 ก.ค. 2551

ม๊อบถ่อย กับ รัฐบาลเถื่อน

"ม๊อบถ่อย กับ รัฐบาลเถื่อน"





จากเหตุการณ์การปะทะระกันหว่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดอุดรธานี
กับม๊อบถ่อย หรือกลุ่มต่อต้านพันธมิตร ในนาม "ชมรมคนรักอุดร"
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 กรกฏาคม
ส่งผลให้เกิดคำถามขึ้นต่างๆมากมายว่า รัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
ทำไมตำรวจถึงปล่อยให้ม๊อบมาเผชิญหน้ากันได้ โดยที่ไม่มีทำการห้ามปรามใดๆ




ซึ่งตอนนี้น่าจะเห็นภาพได้เจนชัดขึ้นว่า ทำไมจึงเกิดเหตุรุมทำร้ายนี้ขึ้น...

" เป็นเพราะรัฐบาลให้การสนับสนุนส่งเสริมม๊อบถ่อย ใช่หรือไม่?? "








เพราะหลังจากเกิดเหตุเพียงไม่กี่วัน หัวหน้าม๊อบถ่อยที่ชื่อ
นายขวัญชัย ไพรพนา ก็ได้ดิบได้ดี โดยนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยได้แต่งตั้งหัวหน้าม๊อบผู้นี้



ขึ้นเป็นข้าราชการเมือง และยังเป็นที่ปรึกษาของนายเฉลิม อยู่บำรุง
ซึ่งเราไม่อาจเข้าใจได้ว่า นายขวัญชัย เป็นใครมาจากไหน ทำความดี มีความรู้เพียงใด จึงสามารถขึ้นมาเป็นข้าราชการและเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยได้

และเหตุการณ์รุมทำร้ายพันธมิตรครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงมาก สื่อทั้งในและต่างประเทศ
ให้ความสนใจนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง แต่กระนั้นนายากรัฐมนตรี(หุ่น)ของประเทศไทย
นายสมัคร สุนทรเวศ กลับเมินเฉยต่อเหตุการณ์รุนแรงนี้
โดยงดการให้สัมภาษณ์ใดๆ กับผู้สื่อข่าว ซึ่งผิดวิสัยของคนเป็นนายกรัฐมนตรี
ที่มีหน้าที่ในการบริหารบ้านเมืองให้เกิดความสงบสุข ร่มเย็น เป็นธรรมซึ่งเป็นภาระหน้าที่
ของผู้บริหารประเทศจะต้องปฏิบัติ จะต้องให้ความสนใจ สอบถามเรื่องนี้ และเอาคนผิดมาลงโทษ

เว้นแต่จะอยู่ในครอกเดียวกัน!!


ทำให้เข้าใจได้ว่านายกรัฐมนตรีของไทยนั้น
ให้การสนับสนุนม๊อบถ่อยรุมทำร้ายประชาชนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล
นอกจากนั้นแล้ว อีกหนึ่งประเด็นซึ่งเป็นที่สงสัยครางแครงใจคือ
ทั้งที่เหตุการณ์นี้ซึ่งเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ อส. อพปร.
ผู้ดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง แต่เหตุใดเจ้าหน้าที่เหล่านี้กลับเพิกเฉย
ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้เหตุรุนแรงเกิดขึ้นและบานปลายได้ถึงขนาดนี้....





เพื่อนๆ คิดว่าอย่างไรกับบ้างคะ ...?





23 ก.ค. 2551

จับเท็จ ปตท. กรณี “นำเข้าก๊าซหุงต้ม”

อันที่จริงชื่อของก๊าซหุงต้ม (LPG -Liquefied Petroleum Gas) ได้สร้างความสับสนให้กับคนทั่วไป
มากทีเดียว ซึ่งเพื่อนหลายๆ คนก็อาจจะเป็นหนึ่งในจำนวนคนที่ยังสับสนอยู่นะคะ เราค่อยๆ
มาทำความเข้าใจกันใหม่ พร้อมๆ กันค่ะ


โดยปรกติ ก๊าซหุงต้ม ในประเทศไทยจะถูกนำไปใช้ในสี่ภาคส่วนใหญ่ ๆ คือ

1. ใช้หุงต้มในครัวเรือน ร้านอาหาร
2. ใช้ในอุตสาหกรรม เช่น ใช้ตัดโลหะ ทำระบบเครื่องทำความเย็น
3. ใช้เป็นวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรม
และ 4. ใช้กับรถแท๊กซี่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งใช้กันมานานกว่า 20 ปีแล้ว


แต่ในระนะหลังมานี้ เมื่อราคาน้ำมันได้ทะยานสูงขึ้นๆ ทำให้หลายๆ คน
หันมาติดตั้งถังก๊าซหุงต้มใช้เป็นเชื้อเพลิงแทนการใช้น้ำมันเบนซิน
และในช่วง 10 ปีมานี้ ทางกระทรวงพลังงานก็ได้ส่งเสริมให้ทั้ง รถแท็กซี่
รถยนต์ส่วนบุคคล และรถประจำทาง หันมาใช้
“ก๊าซ NGV” (National Gas for Vehicle)




มาดูแหล่งที่มาของก๊าซทั้ง2ชนิดกันก่อนดีกว่าค่ะ

“ก๊าซหุงต้ม -LPG” ในประเทศไทยได้มาจาก 3 แหล่งคือ
1. มาจากการกลั่นน้ำมันดิบในประเทศไทยทั้งหมด 7 โรง ซึ่งในจำนวนนั้นมี 5 โรงใหญ่ๆ เป็นของ ปตท.
2. มากจากโรงแยกก๊าซ 5 โรง ซึ่ง 4 โรงเป็นของ ปตท. โรงที่5อยู่ที่ อ.จะนะ จ.สงขลา เป็นการร่วมทุน
ระหว่าง ไทย-มาเลเซีย ซึ่งก๊าซจากโรงแยกที่5นี้(เกือบ)ทั้งหมดถูกส่งไปใช้ในมาเลเซีย
3. มาจากคอนเดนเสตที่เป็นของเหลวได้จากการขุดเจาะก๊าซในทะเล

“ก๊าซ NGV” ได้มาจากโรงแยกกาซที่เป็นของ ปตท. ทั้ง 4 โรง


สรุปแล้ว!! ก๊าซหุงต้ม-LPG เกือบทั้งหมดอยู่ในกำมือของบริษัท ปตท.
มีเพียงส่วนเหลือเล็กน้อยเท่านั้นที่เป็นของบริษัทอื่น
และ ก๊าซ NGV ทั้งหมด ทั้ง100% อยู่ในกำมือของบริษัท ปตท. แต่เพียงผู้เดียว


แล้วตอนนี้เรากำลังเจอปัญหาอะไรอยู่??

ประเด็นที่1: ปตท. ผลิตก๊าซLPGไม่พอใช้ และไม่พอส่งออก
นายณัฐชาติกล่าวว่า เนื่องจากความต้องการใช้ก๊าซ LPG ที่เพิ่มขึ้นของประชาชน ทำให้ประเทศไทยต้องเปลี่ยนสถานะเป็นผู้ส่งออกก๊าซ LPG กลายเป็นผู้นำเข้าก๊าซ LPG แทน โดยในเดือน เม.ย. 2551 ไทยได้นำเข้าก๊าซ LPG แล้วกว่า2หมื่นตันและในเดือน ก.ค. 2551 นำเข้าเพิ่มอีกรวมแล้วกว่า 2.2 หม่นตัน ซึ่งในช่วงปลายเดือนนี้ ไทยอาจจะนำเข้าเพิ่มอีก2.2หมื่นตัน


ประเด็นที่2 : ปตท. บอกประเทสไทยขาดแคลนก๊าซLPG แนะขึ้นราคา
บริษัท ปตท. ได้บอกกับประชาชนว่า ก๊าซหุงต้มหรือที่เรียกกันว่า ก๊าซLPG นั้นกำลังขาดแคลน และได้แนะนำให้รัฐบาลขึ้นราคาก๊าซชนิดนี้ โดยเฉพาะที่ใช้กับรถยนต์ทั้งแท็กซี่และบุคคล
(จาก : คำให้สัมภาษณ์ของนายณัฐชาติ จารุจินดา ผ่านรายการ Hard Topic ทาง Money Channel วันที่ 7 ก.ค. 51)

ประเด็นที่3 : ไทยนำเข้า LPG 4แสนตัน
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. ยังกล่าวอีกว่า “ความต้องการก๊าซหุงต้ม –LPG ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้องนำเข้าก๊าซLPG 4แสนตัน” (ไทยรัฐ 11 ก.ค. 51)



เพื่อนๆ จำได้ไหมคะว่า เกือบทั้งหมดของก๊าซLPG และ NGV อยู่ในกำมือของปตท. นั่นคือ ปตท.เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นผู้ส่งออกก๊าซหุงต้มLPGของประเทศไทยมาตลอด 20 ปี
และในปี 2550 ประเทศไทยผลิตก๊าซหุงต้มLPG ได้ประมาณ4.3ล้านตัน
มีการขายภายในประเทศ 3.7 ล้านตัน ตามข้อมูลจากกระทรวงพลังงาน
และส่งออก 0.3 ล้านตัน แต่ไม่ทราบว่าอีก 0.3ล้านตัน หรือประมาณ 7%ของที่ผลิตได้ทั้งหมด หายไปไหน.... น่าคิดนะคะ

กราฟแสดงปริมาณการบริโภคก๊าซในภาคส่วนต่างๆ ตั้งแต่ปี2529 -2550




ในอดีตนั้น รัฐบาลทุกยุกทุกสมัยได้ให้การอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้มLPGมาตลอด ส่งผลให้ราคาก๊าซหุงต้มLPGต่ำกว่าราคาน้ำมันเบนซิน จึงส่งผลให้ผู้ใช้รถยนต์นั่งส่วนบุคคลนิยมติดตั้งก๊าซหุงต้มLPGกันมาก
ในขณะเดียวกันทางบริษัท ปตท. ก็ได้เร่งการผลิตก๊าซธรรมชาติเพื่อใช้ผลิตไฟฟ้ามากเกินไป

(84%ของก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้จะใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า)
ทำให้ได้ก๊าซหุงต้มLPGและก๊าซNGVถูกผลิตออกมาด้วยในปริมาณที่มากเกินไป
เมื่อเป็นดังนี้แล้ว รัฐบาล และปตท. ก็พุ่งเป้าความสนใจไปที่ ก๊าซNGV
โดยคิดโครงการก๊าซNGVขึ้น เพื่อให้คนหันมาใช้ก๊าซNGVแทนน้ำมัน
ยังมีการส่งเสริมด้วยการติดก่อนผ่อนทีหลัง เนื่องจากค่าติดตั้งก๊าซNGV สูงถึงคันละ 5 หมื่นบาท
นอกจากนั้นยังได้ควบคุมราคาก๊าซNGVไว้ที่กิโลกรัมละ8.50บาท ซึ่งถูกกว่าราคาน้ำมันหลายเท่าตัว
แต่จนแล้วจนรอด โครงการนี้ก็ติดลบ ไม่ประสบผลสำเร็จดังที่เพื่อนๆ หลายๆ ท่านเห็น
เพราะค่าติดตั้งก็แพง ปั๊มเติมก๊าซNGV ก็มีน้อย
รัฐบาลไม่เคยมีความแน่นอนในการจัดการเรื่องพลังงานเลย

และเมื่อโครงการNGVไม่เป็นไปตามแผน ผู้คนก็แห่ไปติดตั้งก๊าซLPGแทน
เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว ก๊าซLPG ก็เลยกลายเป็นเป้าหมายใหม่ให้ ปตท.
สูบกำไรเข้ากระเป๋าตัวเองโดยการให้ข่าวต่าง ๆ นานาจนเกิดเป็นประเด็นต่างๆ
ที่เราพูดกันไปในตอนแรก


ถึงย่อหน้าสำคัญแล้วค่ะ...

จับเท็จ ปตท. !!


ข้อแรก เรื่องการนำเข้าก๊าซหุงต้มLPGกว่า 2 หมื่นตัน มนเดือน เม.ษ. 2551 จากข้อมูลของกรมศุลกากร พบว่า ทั้งเดือนเมษายนและพฤาภาคม 2551 ไม่ได้มีการนำเข้าก๊าซหุงต้มLPGเลยแม้แต่ตันเดียว ดังแผนภาพประกอบด้านล่างนี้


นอกจากนี้ ข้อมูลจองกระทรวงพลังงานซึ่งดูแลข้อมูลพลังงงานอยู่ก็ไม่พบว่ามีการนำเข้าแต่อย่างใด เพื่อนๆ อาจจะคิดว่า ข้อมูลของกรมศุลกากรยังไม่ได้ Update มั้ง แต่เราก็พบว่า ในส่วนของการส่งออกได้มีการUpdateไปถึงเดือนพฤษภาคมแล้ว นั่นคือ นอกจากจะไม่มีการนำเข้าตามคำกล่าวอ้างของผู้บริหาร ปตท. แล้ว ยังมีการส่งออกอีกต่างหาก ดังแผนภาพประกอบด้านล่าง


ในข้อต่อมา ทั้งๆ ที่ ทางบริษัท ปตท. อ้างว่าก๊าซหุงต้มLPGกำลังขาดแคลน แต่จากข้อมูลของกรมศุลกากรพบว่า มีการส่งออก LPG ตั้งแต่เดือน มกราคมจนถึงเดือนพฤษภาคม 2551 ทุกเดือนรวมทั้งสิ้น 19.7 ล้านกิโลกรัม หรือเกือบ 2 หมื่นตัน ในราคาขายที่ท่าเรือ(FOB) กิโลกรัมละ 25.82 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาที่จะขายได้ในประเทศไทยคือ กิโลกรัมละ 20 บาท และถ้าหากคิดราคาส่งออกเฉลี่ยในเดือนพฤษภาคมที่ราคา กิโลกรัมละ 27.73 บาท ซึ่งขายได้ราคาดีกว่าขายให้พี่ไทยตั้งเยอะ

ถามว่า แบบนี้หรือที่ปตท. เรียกว่าLPG ในประเทศไทยกำลังขาดแคลน แล้วยังต้องการให้รัฐบาลขึ้นราคาก๊าซLPGโดยเฉพาะที่ใช้กับรถยนต์ทั้งแท็กซี่และบุคคล เพื่อใคร.....

และในประเด็นสุดท้าย ความเห็นของคุณประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ที่ว่า
“ปีนี้ต้องนำเข้าLPG 4 แสนตัน” ก็เป็นที่สงสัยว่าคุณประเสริฐไปเอาตัวเลขนี้มาจากไหน เพราะตัวเลขนี้คิดเป็น 11% ของปริมาณที่มีการใช้ในปี 2550 แล้วขณะนี้ปี 2551 ซึ่งได้ล่วงเลยมาแล้วกว่า 5เดือน (ตามข้อมูลกรมศุลกากร) ก็ยังไม่มีการนำเข้าก๊าซ ตามที่ ปตท. อ้างเลย



นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทาง บริษัท ปตท. ได้ให้ข้อมูลที่เป็นเท็จกับประชาชน
สมควรอย่างยิ่งที่เราทุกคนต้องร่วมมือกันตรวจสอบอย่างใกล้ชิดต่อไป และตลอดไป





Mode :: จันทร์กระโทกปิดประเด็น ::
ถึงแม้ตอนนี้เรายังคงไม่ได้คำอธิบายอย่างจริงใจใดๆ จาก ปตท.
จนถึงวันนี้ซึ่งยังไม่มีคำอธิบายใดๆ จากบริษัท ปตท. ที่เป็นเรื่องเป็นราวที่จะทำให้ประชาชนชนจะสามารถเข้าใจและยอมรับได้ในเรื่องของการพยายามปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG ซึ่งทำให้ประชาชนซึ่งแทบจะเป็นส่วนใหญ่ในขณะนี้ที่ใช้ก๊าซ LPG เป็นเชื้อเพลิงของรถยนต์นั้นประสบปัญหา และรู้สึกว่าถูกขูดรีด
จะมีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้ บริษัท ปตท. กลับมามีเจ้าของเป็นประชาชนคนไทย
เพื่อประโยชน์ของประชาชนคนไทยได้บ้าง ...พวกเราต้องช่วยกันค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกๆ ความคิดเห็นค่ะ

7 ก.ค. 2551

ประเทศไทย กับการเมืองภาคประชาชน



สวัสดีคะ
วันนี้จันทร์กระโทก มีประเด็นมาฝาก..




"ประเทศไทย กับการเมืองภาคประชาชน"

หลายคนอาจจะยังสงสัยว่า ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย(นักหนา)? ทำไมบ้านเมือง
ถึงเต็มไปด้วยม๊อบนั่นนี่ ทำไมมีกลุ่มพันธมิตรฯ พวกเขาเรียกร้องอะไร?? และเพื่ออะไร??
เพื่อนบางคนอาจรู้คำตอบ จากการดูข่าวเคเบิลทีวี ข่าวโทรทัศน์ หรือจากการอ่านหนังสือพิมพ์
แต่บางคนอาจจะหน้ามืด ไม่รู้เรื่องร้อยแปดสาเหตุ ว่าอะไร ทำไม อย่างไร... แต่ไม่เป็นไรค่ะ
วันนี้จันทร์กระโทกอาจจะทำให้เพื่อน ๆ พอจะคลาย Queation Marks ได้บ้าง
และมากกว่านั้น "คุณ" อาจจะมาเป็นเพื่อนคุยคนใหม่ของเราก็ได้นะคะ ^^

[เข้าเรื่องกันดีกว่า]

เห็นได้ชัดว่าในปัจจุบัน ภาคประชาชนคนไทยเข้ามามีส่วนร่วม มีบทบาทในการบริหารประเทศ มากขึ้น ในแง่ของการชุมนุมต่อต้าน คัดค้านการทำงานของรัฐบาล ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่รัฐบาล สมัยท่านพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จนต้องเกิดการรัฐประหารขึ้น
และในวันนี้รัฐบาลสมัยนายสมัคร สุนทรเวส เป็นนายกฯ ตลอด 6 เดือนของการทำงานของรัฐบาลชุดนี้สารพัดปัญหาได้ก่อตัวขึ้นโดยปราศจากความสนใจจะแก้ไขเมื่ออำนาจของรัฐบาลมีไว้ให้บริหารประเทศ เพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองและประชาชน แล้วรัฐบาลมัวทำอะไรอยู่??







[รัฐบาลทำอะไรบ้าง?]

  • พยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเอื้อประโยชน์แก่พวกพ้อง

  • บริหารงานผิดพลาดทำให้ราคาส่งออกข้าวตกต่ำ แต่คนไทยกลับต้องซื้อข้าวแพงรับประทาน

  • โยกย้ายข้าราชการที่ซื่อสัตย์สุจริตออกจากตำแหน่ง

  • เฉื่อยชาต่อการจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ กรณีนายจักรภพ เพ็ญแข
  • ขายอธิปไตยชาติไทยโดยเซ็นลงนามยินยอมให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกโดยมีผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่าง ทักษิณกับ ฮุนเซน ในการขอสัมปทานขุดแก๊ซในอ่าวไทย

จนวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2551 ที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมประชาชน ได้ร่วมกันชุมนุมใหญ่ ประท้วงตามวิถีทางประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญปี 2540 มาตรา 44 ที่ให้สิทธิประชาชนติดตามและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้


[กลุ่มพันธมิตรฯ ทำอะไรบ้าง?]
  • คัดค้านกลุ่ม ส.ส.และ ส.ว.บางส่วนที่ได้ยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 หวังฟอกความผิดของคนในระบอบทักษิณ โดยพันธมิตรฯยื่นรายชื่อกว่า 3 หมื่นคนถอดถอนนักการเมืองที่ลงชื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญ ทำให้ ส.ว.ถอนรายชื่อออกจากญัตติการล้มล้างรัฐธรรมนูญเป็นผลให้มีจำนวนเสียงไม่เพียงพอและทำให้ญัตติการแก้รัฐธรรมนูญต้องล้มไปเป็นผลสำเร็จ
  • เคลื่อนไหวเพื่อกดดันให้ นายจักรภพ เพ็ญแข ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกรณี พูดหมิ่นเบื้องสูง (คลิกชมคลิปวีดีโอ) จนนายจักรภพต้องลาออกจากตำแหน่งซึ่งมีผลในวันที่ 9 มิถุนายน 2551
  • ยื่นต่อศาลปกครองกลาง กรณีที่นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ไปเซ็นลงนามยินยอมยกปราสาทพระวิหารให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เป็นผลทำให้ศาลปกครองได้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามนำมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวไปใช้ในการลงนามกับประเทศกัมพูชาได้เป็นผลสำเร็จ

ทั้งหมดนี้คือส่ิงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยคือสิ่งที่เกิดขึ้นจากการใช้ POWER ในทางที่ไม่สมควร ของรัฐบาล "รัฐบาล ต้อง ใช้อำนาจที่มีอยู่บริหารประเทศเพื่อประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของรัฐบาล"

ที่มา :: http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000078442





Mode :: จันทร์กระโทกปิดประเด็น ::

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นเลยนะคะ ดีใจที่เพื่อนๆ ร่วมกันแสดงความคิดเห็นของตัวเอง ดีใจที่เพื่อนๆ ออกมาพูด ซึ่งทำให้เรารู้ว่า ทุกคน care ประเทศไทยนะ ทุกคนให้ความสนใจในความเป็นไปของสังคม และที่สำคัญคือทุกคนประสงค์ที่จะให้ประเทศไทยกลับมาเป็นประเทศไทยที่น่าอยู่ค่ะ ...

เอาละ... พูดมาซะยืดยาว ไม่ได้เข้าMode ปิดประเด็นสักที ^^ ทุกๆ คนในที่นี้ให้ความสนใจกิจกรรมทางการเมืองที่เกิดขึ้นใช่ไหมคะ ทุกๆ คนคือภาคประชาชนที่คอย Monitor การทำงานของรัฐบาล ซึ่งบทสรุปจากการ Monitor ของเพื่อนๆ ที่แทบจะเป็นเอกฉันท์เห็นด้วยว่า การทำงานของรัฐบาลชุดนี้มีปัญหา (อย่างแรง) ....ซึ่งทำให้รัฐบาลต้องเริ่มพิจารณาตัวเอง ปรับปรุง แก้ไข ระแวดระวังในการใช้อำนาจให้มากขึ้น เพราะตอนนี้รัฐบาลรู้แล้วว่าภาคประชาชน (อย่างเราๆ) ไม่ได้หูหนวก ตาบอด หรือเป็นเอ๋อ... ที่จะไม่รู้ว่า อะไร ทำเพื่อชาติ เพื่อประชาชน และอะไรทำเพื่อตัวเอง..!!